วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีทำอ้างอิงใน Word


ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นรายงาน การวิจัย ทำวิทยานิพนธ์ ฯลฯ
ถ้าหากยกข้อความบางตอนจากงานเขียนของคนอื่น (จะว่าก็อปแปะก็เอาเหอะ)
ไม่ว่าจะงานเงียนในหนังสือ บทความ หรืออินเตอร์เน็ต
ควรต้องมีการอ้างอิง ซึ่งถือเป็นการให้ credit แก่ผู้เขียนด้วย
นอกจากนี้ หากเป็นข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง เช่น ข้อมูลที่เป็นตัวเลข ก็ควรมีการอ้างว่าเอามาจากไหน
ทั้งเพื่อให้ credit เจ้าของข้อมูล และเพื่อปกป้องงานเขียนของตัวเอง เช่น ถ้าข้อมูลผิด ก็จะได้อ้างได้ว่า
มันผิดมาตั้งแต่เจ้าของข้อมูลนู่นแล้ว (แม้จริงๆจะเป็นความผิดของเราด้วยที่เลือกข้อมูลไม่ดีมาใช้ 555)

การอ้างอิงมี 2 แบบใหญ่ๆ คือ แบบอ้างในเนื้อหาที่เรียกว่า "นามปี" เช่น (กา กา, 2554: 24) คือ (ชื่อ นามสกุล, ปีที่พิมพ์: หน้า)
กับแบบตัวเล็กๆท้ายหน้ากระดาษ เรียกว่า "เชิงอรรถ" หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า "ฟุ๊ตโน๊ต" (footnote) 

การอ้างอิงที่จะสอนวันนี้ คือ แบบที่ 2 หรือแบบฟุ๊ตโน๊ต นั่นเอง
โดยจะเป็นการอ้างอิงในโปรแกรม MS Word ver. 2007

วิธีการทำก็ง่ายมาก โดยเฉพาะ Word 2007 ขึ้นไป คือ

1. ให้คลิกที่ท้ายข้อความที่เรายกมาจากงานเขียนคนอื่นที่ต้องการอ้างอิง เพื่อให้มันมีแท่งกระพริบๆ


2. สังเกตแถบด้านบน จะพบแถบ References (word ภาษาไทยอาจใช้คำว่า การอ้างอิง)


3. เมื่อกดแถบนั้นแล้ว จะมีแถบด้านล่างให้เลือกเยอะแยะมาก แต่แบ่งเป็นส่วนๆ ให้ดูในส่วนที่ 2 ล่างสุดที่เขียนว่า Footnotes (ถ้าเป็น word ไทยคงใช้คำว่า เชิงอรรถ) ให้กดตรงลูกศรท้ายคำนั้น


4. พอกดแล้วจะมีหน้าต่างขึ้นมา ให้เลือกปุ่มซ้ายสุด คือ Insert 


ส่วนตัวเลือกอื่นๆ ที่สำคัญ จะอธิบายสั้นๆ ดังนี้

- Location -> Footnote เป็นการให้เลือกว่าจะให้เชิงอรรถเราไปโผล่ที่ไหน ซึ่งก็คือ bottom of page หรือท้ายหน้ากระดาษ

- Format -> Number format ก็คือ เลือกจะใช้ชุดตัวเลขแบบไหน อาจเป็นเลขไทย (๑, ๒, ๓, ...) เลขอารบิก (1, 2, 3, ...) เป็นตัวอักษารภาษาอังกฤษ ซึ่งในที่นี้เป็นเลขอารบิก

- Format -> Start at คือ จะให้ตัวเลขมันเริ่มที่เท่าไร ในที่นี้เลือก 1 แต่ถ้าเราแยกไฟล์เป็นบทที่ 1, บทที่ 2, ..... ก็สามารถทำให้เลขมันต่อกันได้ด้วยเมนูนี้ 

5. พอกด Insert แล้ว ก็จะมีตัวเลขขึ้นมาหลังข้อความที่เราจะอ้าง แล้วก็มีตัวเลขอีกที่นึงด้านท้ายกระดาษ


6. ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนสำคัญ คือ การเขียนอ้างอิงที่มา ซึ่งคล้ายกับการเขียนบรรณานุกรม แต่เปลี่ยนจุด (.) เป็นจุลภาคหรือคอมมา (,) ทั้งหมด และต้องระบุหน้าด้วย เช่น

บรรณานุกรม -> กา กา. กากากา. กรุงเทพฯ: กากา, 2554.  

อ้างอิง -> กา กา, กากากา, (กรุงเทพฯ: กากา), 2554, 3.

และที่สำคัญสำหรับนักเรียน คือ การอ้างจากอินเตอร์เน็ต เพราะห้องสมุดคงไม่มีหนังสือเพียงพอ ซึ่งการในเว็บไม่มีหน้า ปีก็หายาก เลยใส่ข้อมูลเป็น ชื่อคนแต่ง ชื่อเรื่อง เข้าถึงวันที่ และจากเว็บอะไร เท่านี้พอ

บรรณานุกรม -> กา กา. กากากา, เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2554 จาก http://kookkai.co.th.

อ้างอิง -> กา กา, กากากา, เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2554 จาก http://kookkai.co.th.

7. จากนั้นก็ปรับแบบฟ้อนต์ และขนาดฟ้อนต์ให้เข้ากับเนื้อหา โดยเนื้อหาปกติจะใช้ฟ้อนต์ขนาด 16 ในส่วนอ้างอิงก็จะใช้ขนาด 14

8. ถ้าแหล่งข้อมูลเป็นอันเดียวกัน ใช้คำว่า เรื่องเดิม หรือ เรื่องเดียวกัน ได้เลย


หวังว่าคงไม่ยากเกินไปครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น